คำถามเหล่านี้เป็นสิ่งที่คุณจะต้องเจอเมื่อจะซื้อโซฟา หรือซื้อผ้าบุโซฟา หรือเฟอร์นิเจอร์ของคุณ
ชื่อเรียกเหล่านี้เหมือนจะคล้าย ๆ กัน แต่ก็มีลักษณะแตกต่างกัน รวมทั้งข้อดีและข้อเสีย
หากคุณกำลังมีปัญหาในการตัดสินใจว่าจะเลือกผ้าบุเฟอร์นิเจอร์แบบ PU หรือ PVC หรือ PU ผสม PVC ดี บทความนี้จะบอกให้คุณทราบว่า ผ้าบุเฟอร์นิเจอร์หนังเทียมแต่ละแบบเป็นอย่างไร ข้อดีและข้อเสียมีอะไรบ้าง เพื่อให้คุณตัดสินใจซื้อได้ตรงตามลักษณะการใช้งานของคุณมากที่สุด
ผ้าบุหนังเทียม PU

ผ้าบุหนังเทียม PU หรือโพลียูรีเทน เป็นวัสดุผสม (Composite Material) ที่ทำจาก PU อย่างน้อยหนึ่งชั้น บวกกับวัสดุที่ทำจากผ้าทอ หรือไม่ทอก็ได้ เช่น หนัง Bi-cast หรือหนังพื้น
ผ้าบุหนังเทียม PU ให้สัมผัสเหมือนหนังแท้ได้สมจริงที่สุด สัมผัสนุ่มมาก รวมทั้งรอยย่นต่าง ๆ ก็เหมือนหนังแท้ ด้านนอกจะมีพื้นผิวเป็นเงามัน ส่วนด้านในจะมีลักษณะเป็นขน
ผ้าบุหนังเทียม PU ระบายอากาศได้ดีกว่า PVC จึงสามารถปรับได้ตามอุณหภูมิของร่างกายได้เร็ว
ด้วยลักษณะที่เหมือนยางตามธรรมชาติของผ้าบุหนังเทียม PU ส่งผลให้มีความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพที่ดีในอุณหภูมิต่ำ
อย่างไรก็ตามผ้าบุหนังเทียม PU ไม่ทนทานต่อความร้อนและความชื้น ทำให้มีแนวโน้มที่จะถลอก และเป็นรอยง่าย
ราคาของผ้าบุหนังเทียม PU นั้นมีราคาถูกกว่าหนังแท้มาก แต่ราคาสูงกว่า PVC
และด้วยกระบวนการผลิตและการดูแลรักษาผ้าบุหนังเทียม PU ไม่ต้องใช้สารเคมีพลาสติก ไร้สารมลพิษตกค้างในผ้าบุหนังเทียม PU จึงเป็นทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า PVC และจะย่อยสลายตามธรรมชาติในที่สุดเมื่อเวลาผ่านไป
สรุปข้อดีของผ้าบุหนังเทียม PU
- Texture & Touch: ผิวและการสัมผัสเหมือนหนังแท้มากที่สุด นุ่มมาก
- Design & Color: มีลวดลาย และสีของหนังให้เลือกมากมาย ผิดกับหนังแท้ที่มีสีให้เลือกจำกัด
- Easy Clean: ทำความสะอาดง่าย เพียงใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ด
สรุปข้อเสียของผ้าบุหนังเทียม PU
- Durability: ความทนทานของผิวสัมผัสไม่เท่า PVC เพราะนุ่มจึงถลอกง่าย ไม่ค่อยคืนตัว
- Lifetime: ระยะเวลาในการใช้งานสู้ผ้าบุหนังแท้ไม่ได้ ถ้าโดนขูดขีดเป็นรอยง่าย
- Price: ราคาแพงกว่าผ้าบุหนังเทียม PVC และ PU ผสม PVC
- Topical Wet: ไม่ทนทานกับสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว และเนื่องจากผ้าบุหนังเทียม PU ไม่ดูดซับน้ำ ทำให้เวลานั่งหรือนอนบนโซฟาเหงื่อจะออกง่ายมาก (หากไม่ได้เป็นห้องแอร์นะคะ)
ผ้าบุหนังเทียม PVC

ผ้าบุหนังเทียม PVC หรือโพลีไวนิลคลอไรด์ เรียกกันทั่วไปว่าหนังไวนิล เป็นพลาสติกที่มีความยืดหยุ่นที่ทำจากพีวีซีเรซิน และสารเติมแต่งชนิดต่าง ๆ เช่น พลาสติก เพื่อปรับความนุ่มนวล สี และพื้นผิว
ผ้าบุหนังเทียม PVC เป็นผ้าบุหนังเทียมที่ผลิตมาเพื่อใช้ทำโซฟาราคาถูก เพราะเป็นหนังที่มีคุณภาพต่ำที่สุดในบรรดาหนังชนิดอื่น ๆ
แม้ว่าผ้าบุหนังเทียม PVC จะมีราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับผ้าบุหนังเทียม PU รวมถึงมีดีไซน์ให้เลือกมากมาย และดูเหมือนจะทนทานที่สุดเพราะมีส่วนผสมที่คงทานแบบพลาสติก แต่หนัง PVC บางเกรดพื้นผิวและสัมผัสหนัง จะแข็งกระด้าง และกรอบแตกง่ายกว่า หนัง PU
สรุปข้อดีของผ้าบุหนังเทียม PVC
- Price: ราคาถูกที่สุดในเหล่าวัสดุทุกอย่างที่ใช้เป็นผ้าบุเฟอร์นิเจอร์หรือโซฟา
- Design & Color: มีลวดลายและสีสันที่หลากหลาย
- Durability: ความทนทานของตัวหนังPVC จะคงทนต่อรอยขูดขีด ไม่เป็นรอยง่าย
- Easy Clean: เช็ดทำความสะอาดง่าย
สรุปข้อเสียของผ้าบุหนังเทียม PVC
- Texture & Touch: พื้นผิวและสัมผัสจะแข็งกระด้าง และกรอบแตกง่ายกว่าหนัง PU
- Lifetime: อายุการใช้ประมาณ 3-5 ปี แต่ถ้าถูกนั่งบ่อย ๆ จุดที่ถูกเสียดสีอาจกรอบและแตกง่าย
- Hard Repair: ซ่อมแซมยาก เปลี่ยนหนังใหม่คุ้มกว่า
- Topical Wet: ไม่ทนทานกับสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว และเนื่องจากผ้าบุหนังเทียม PVC ไม่ดูดซับน้ำ ทำให้เวลานั่งหรือนอนบนโซฟาเหงื่อจะออกง่ายมาก (หากไม่ได้เป็นห้องแอร์นะคะ)
ผ้าบุหนังเทียม PU ผสม PVC

แล้วนวัตกรรมเรื่องหนังเทียมก็พัฒนาไปอีกขั้นค่ะ โดยสามารถนำจุดเด่นของหนังเทียม PU ผสมกับจุดเด่นของหนังเทียม PVC เพื่อกลบจุดด้อยของกันและกัน
จนได้ “หนัง PU ผสมหนัง PVC”
จุดประสงค์ก็เพื่อให้ได้ผ้าบุหนังเทียมที่มีคุณภาพดีขึ้น คุณภาพใกล้เคียงกับหนังแท้มากขึ้นกว่าเดิม แต่ในราคาสมเหตุสมผลและถูกกว่าหนังแท้มาก
คุณจะได้ผ้าบุหนังเทียมที่มี Texture และผิวสัมผัสที่นิ่มคล้ายหนังแท้ แต่ทนทานต่อรอยขูดขีด หนังไม่ย้อย คืนตัวดีกว่าหนัง PU อย่างเดียว
อายุการใช้งานก็นาน มีสีและลวดลายให้เลือกมากขึ้น ราคาไม่แพงมากถูกกว่าหนัง PU ทำความสะอาดง่าย ที่สำคัญคือช่วยเรื่องรักษ์โลก ไม่เป็นการส่งเสริมให้มีการฆ่าสัตว์เพื่อเอาหนังมาทำผ้าบุเฟอร์นิเจอร์
สรุปข้อดีของผ้าบุหนังเทียม PU ผสม PVC
- Texture & Touch: พื้นผิวและผิวสัมผัสนิ่ม คล้ายหนังแท้
- Lifetime: อายุการใช้งานทนทาน 3 – 5 ปี ถ้าดูแลรักษาดี ไม่กรอบหรือแตกง่าย
- Easy Clean: เช็ดทำความสะอาดง่าย
- Price: ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับคุณสมบัติ
- Durability: ทนทานต่อรอยขีดข่วนดีกว่าหนัง PU อย่างเดียว
- Save The World: ช่วยเรื่องรักษ์โลก ไม่เป็นการส่งเสริมให้มีการฆ่าสัตว์เพื่อเอาหนังมาทำผ้าบุเฟอร์นิเจอร์
สรุปข้อเสียของผ้าบุหนังเทียม PU ผสมผ้าบุหนังเทียม PVC
- Topical Wet: ไม่ทนทานกับสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว และเนื่องจากผ้าบุหนังเทียม PU ผสม PVC ไม่ดูดซับน้ำ ทำให้เวลานั่งหรือนอนบนโซฟาเหงื่อจะออกง่ายมาก (หากไม่ได้เป็นห้องแอร์นะคะ)
เมื่อคุณทราบถึงความแตกต่างการผสมผสานระหว่างหนังเทียมทั้ง 3 ชนิดแล้ว ยังมีกระบวนการ Finishing ที่จะทำให้หนังมีคุณสมบัติคงทนทั้งเรื่องสี และผิวสัมผัส ให้ยืดหยุ่นและใช้งานได้ดี เหมาะกับประเทศในเขตร้อนชื้น (Topical Country) ได้อย่างดี คือกระบวนที่มีชื่อว่า Hydrolysis

UTEX Living Square หวังว่าข้อมูลดังกล่าวคงจะช่วยคุณได้ไม่มากก็น้อย เมื่อถึงเวลาที่คุณต้องซื้อโซฟา ผ้าบุโซฟา หรือเฟอร์นิเจอร์ใหม่ค่ะ
ซึ่งหากคุณกำลังมองหาหนัง PU ผสมหนัง PVC และผ่านกระบวนการ Finishing แบบ Hydrolysis อยู่
เราขอแนะนำเล่มตัวอย่างผ้าบุหนังเทียม Acantara Collection II และเล่มตัวอย่างผ้าบุหนังเทียม NAPPA SYN LEATHER IV ที่มีทั้งผ้าบุหนังเทียม PU 100% และผ้าบุหนังเทียม PU ผสม PVC


สามารถสอบถามเพิ่มเติม เพื่อขอรับตัวอย่างสี ลวดลาย และ Texture กับทาง ZOFT The Fabric Gallery ได้ทางแบบฟอร์มข้างล่างนี้ค่ะ
Leave a comment