ทราบมั้ยคะว่า ถ้าเราเลือกทิศทางของห้องให้ถูกทิศก็สามารถกำหนดความร้อนหรือเย็นของห้องนั้น ๆ ได้
เพราะทิศทางของห้องมีผลโดยตรงต่อแสงแดดที่ส่องเข้ามา และการเลือกผ้าม่านให้เหมาะกับทิศทางของห้องก็เป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะผ้าม่านนอกจากจะใช้ตกแต่งเพื่อความสวยงามแล้ว ยังสามารถช่วยกรองแสง หรือกันแสงให้กับห้องได้อีกด้วย
บทความนี้ UTEX Living Square จะพาคุณมาดูกันว่า ทิศไหนเหมาะกับลักษณะห้องแบบไหน รวมถึงความเหมาะสมของผ้าม่าน ว่าผ้าม่านแบบไหนที่ช่วยบดบังแสงแดดได้ดี
ประโยชน์ของการเลือกผ้าม่านให้เหมาะกับทิศทางของห้อง
ผนังห้องเกิดการสะสมความร้อนในเวลากลางวัน และคลายความร้อนในตอนเวลากลางคืน
การเลือกผ้าม่านหน้าต่างในทิศที่เหมาะสม จะช่วยกันแสงแดด กันความร้อนที่สามารถลอดผ่านเข้ามาได้ ทำให้ห้องมีอุณภูมิเย็นลงเร็วขึ้น ช่วยประหยัดค่าไฟ เพราะผ้าม่านจะช่วยลดความร้อน และช่วยลดการสะสมความร้อนของห้องได้เป็นอย่างดีค่ะ
การเลือกผ้าม่านให้เหมาะสมกับทิศของห้อง
ทิศเหนือ
เป็นทิศที่ได้รับแสงแดดน้อย มีเพียงไอแสงแดดอบอุ่นเท่านั้น เพราะแสงแดดจะไม่ลงโดยตรง อากาศของทิศเหนือจึงสบายกว่าทิศอื่น ๆ และถือว่าเป็นทิศทางของลมทั้งเข้าและออก ดังนั้นควรมีการเปิดหน้าต่างรับลม ไม่ควรปิดมิดชิด เหมาะกับห้องนั่งเล่น หรือห้องนอน
ผ้าม่านที่เหมาะกับห้องทิศเหนือ
ควรเป็นม่านโปร่ง (Sheer) หรือผ้าม่านทึบธรรมดาอย่างผ้าลินิน ผ้าคอนตอน ผ้าทอลาย จะช่วยให้ไม่บดบังทิศทางลม สามารถปล่อยม่านโปร่งเพื่อกรองแสงบาง ๆ และช่วยเพิ่มความพริ้วไหวให้กับม่าน ช่วยตกแต่งให้ห้องดูอบอุ่นน่าอยู่มากขึ้นค่ะ ซึ่งถ้าอยากแต่งเติมม่านทึบเข้าไปอีกชั้นก็สามารถทำได้เพื่อความสวยงาม เป็นการตกแต่งห้องให้ดูหรูหรามากขึ้น
ทิศใต้
เป็นทิศที่จะได้รับแดดอ่อน ๆ ในช่วงสายไปถึงบ่าย ทำให้ห้องที่อยู่ทิศนี้มีอากาศร้อนในช่วงสายถึงบ่าย แต่ก็ยังเป็นทิศทางของลมเข้าออกได้ดีค่ะ เหมาะกับห้องที่ต้องการความโปร่ง ไม่ต้องการความร้อนมากในช่วงเช้า หรือบ่าย
ผ้าม่านที่เหมาะกับห้องทิศใต้
ควรเป็นผ้าม่านกันแสง (Dimout) มีประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดได้ดี และยังมีคุณสมบัติช่วยในการป้องกันแสง UV อีกด้วย เหมาะกับห้องที่ได้รับความร้อนกับแสงแดดในช่วงสายและช่วงบ่าย ซึ่งถือเป็นแดดที่ค่อนข้างให้ความร้อนพอสมควร
การใช้ผ้าม่านกันแสง นอกจากจะช่วยกันความร้อนจากแสงแดด ยังสามารถปล่อยให้แสงรอดผ่านได้เล็กน้อยทำให้ห้องไม่มืดจนเกินไป อีกทั้งยังไม่ปิดกั้นเส้นทางลมที่พัดผ่านในทิศทางนี้ ทำให้ห้องยังได้รับความเย็นจากลมที่พัดผ่านเข้ามาได้ค่ะ
หรือติดตั้งม่านโปร่ง (Sheer) อีกชั้นหนึ่ง แม้ในทิศใต้จะมีแสงแดดในตอนสายและตอนบ่าย แต่ในช่วงเช้าก็ถือว่าเป็นอากาศที่ดีพอสมควรค่ะ เพราะแดดส่องอ่อน ๆ ในตอนเช้า การติดผ้าม่านโปร่งอีกชั้นไว้สำหรับปิดบาง ๆ ในช่วงนี้ก็ช่วยทำให้บรรยากาศของห้องดูสบายตามากขึ้นพอสมควรค่ะ
ทิศตะวันออก
ห้องทิศตะวันออก ควรเป็นห้องที่ต้องรับแสงแดดในยามเช้า เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องนอน เพราะจะช่วยลดความชื้นของห้องได้เป็นอย่างดี แสงแดดยามเช้าจะให้ความอบอุ่น ไม่ร้อนจนเกินไป และห้องยังสามารถคลายความร้อนได้เร็วในตอนบ่าย จึงทำให้ห้องไม่เกิดความร้อนสะสมในตอนเย็น
ผ้าม่านที่เหมาะกับห้องทิศตะวันออก
ควรเป็นผ้าม่านกันแสง (Dimout) เหมาะกับห้องที่ไม่ต้องการความมืดสนิทค่ะ เพราะคุณสมบัติของผ้าม่านลักษณะนี้จะยังสามารถปล่อยให้แสงลอดผ่านเข้ามาได้เล็กน้อยแต่ยังคงกันความร้อนได้ปกติ
นอกจากนี้ผ้าม่านกันแสง (Dimout) ยังเหมาะนำมาตกแต่งห้องให้มีความคลาสสิค หรือหรูหรา ตามแบบฉบับที่คุณต้องการได้ค่ะ
หรือการติดม่านโปร่ง (Sheer) ที่นอกจากจะช่วยเพิ่มเลเยอร์ของชั้นผ้าม่านให้ดูสวยงาม ส่งเสริมห้องให้เรียบหรู น่าอยู่แล้ว รู้สึกสบาย แล้วยังเปิดให้ลมสามารถผ่านมาเข้ามาได้โดยที่ไม่ทำให้ร้อน และช่วยบดบังสายตาจากภายนอกได้อีกด้วยค่ะ
ทิศตะวันตก
ทิศตะวันตกจะเป็นทิศที่ได้รับความร้อนมากที่สุด เพราะจะได้รับความร้อนจัดตั้งแต่ช่วงบ่าย และเกิดความร้อนสะสมไปจนถึงช่วงเย็น การวางตำแหน่งห้องในทิศนี้จึงควรเป็นห้องที่ต้องการความร้อน หลีกเลี่ยงการวางตำแหน่งของห้องนอนหรือห้องนั่งเล่นค่ะ
ผ้าม่านที่เหมาะกับห้องทิศตะวันตก
ผ้าม่านกันแสง (Blackout)
หากมีห้องใดห้องหนึ่งภายในบ้านต้องปะทะกับแดดช่วงบ่ายอย่างไม่ได้ตั้งใจ ก็แนะนำว่าควรติดตั้งผ้าม่านกันแสง (Blackout) ไว้ค่ะ เพราะผ้าม่านกันแสง (Blackout) มีประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดได้สูงสุด ถึง 100% สามารถป้องกันแสงเเดด ป้องกัน รังสี UV ช่วยสะท้อนรังสีอินฟาเรด (IR) ช่วยลดอุณหภูมิความร้อนภายในห้องได้ถึง 3-7 องศา ทำให้ภายในห้องเย็นขึ้นได้ค่ะ
ม่านโปร่ง (Sheer)
ใช้เป็นตัวเสริมอีกชั้นจากผ้าม่านหลัก ช่วยกรองแสงให้นุ่มนวลขึ้น พรางสายตาบางส่วนจากภายนอก และส่งเสริมบรรยากาศของห้องให้ดูสวยขึ้นอีกด้วย
เลือกผ้าม่านให้เหมาะกับฤดูกาล
ในแต่ละฤดู ทิศทางของลมและแสงก็มีการเปลี่ยนแปลงค่ะ
ในทิศใต้ที่มักจะมีแสงแดดอบอุ่นเข้ามาในฤดูหนาว และมีลมเย็นพัดเข้ามาในฤดูร้อน และฤดูฝน ดังนั้นการเลือกผ้าม่านควรมีทั้งแบบกันแสง และแบบโปร่งเพื่อให้สะดวกในการเลือกใช้ว่าต้องการแสงมากน้อยขนาดไหน หลังฝนหยุดก็ควรเปิดให้ห้องได้รับแสงเพื่อป้องการการอับชื้น เชื้อราที่มาจากฝน หรือหากต้องการให้มีลมพัดผ่านก็สามารถปิดม่านโปร่งไว้เพื่อบดบังสายตา แต่ไม่บดบังทิศทางของลมค่ะ
ส่วนของทิศเหนือจะได้รับแสงแดดเบา ๆ แค่ในช่วงฤดูหนาว ดังนั้นอาจจะติดเฉพาะม่านโปร่งเพื่อความเบาสบาย หรือสามารถติดม่านกันแสงเพิ่มอีกชั้น เมื่อไม่ต้องการให้แสงลอดผ่านมากเกินไป และเพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับของห้องของคุณได้ค่ะ
สรุปการเลือกผ้าม่านให้เหมาะกับทิศของห้อง
การเลือกผ้าม่านให้ตรงกับห้องในแต่ละทิศ มีผลอย่างมากต่ออุณภูมิของห้อง เพราะหากเลือกผ้าม่านผิด เช่น ติดตั้งเฉพาะม่านทึบในทิศทางที่มีแสงน้อยแต่มีลมพัดผ่านตลอด ก็อาจจะทำให้อากาศในห้องนั้นไม่ถ่ายเท เกิดกลิ่นอับชื้นได้ หรือติดตั้งเฉพาะผ้าม่านโปร่งในทิศของห้องที่มีแสงแดดแรง ๆ ก็อาจจะทำให้ห้องเกิดความร้อนสะสม
ดังนั้นก่อนการเลือกติดตั้งผ้าม่านควรทำความเข้าใจทิศทางของห้อง ว่าอยู่ในทิศทางใด ก็จะช่วยลดปัญหาการเกิดห้องร้อน หรือห้องอับชื้นไปได้แน่นอนค่ะ
Leave a comment