ปีนี้ประเทศไทยอากาศร้อนขึ้นกว่าทุกปี อันเนื่องมาจากปรากฏการณ์ภาวะโลกร้อนที่เริ่มส่งผลกระทบให้เราเห็นชัดมาขึ้นทุก ๆ ปี
UTEX Living Square จึงมีเทคนิคดี ๆ สำหรับการเลือกผ้าม่านเพื่อป้องกันอากาศร้อน ให้เป็นตัวช่วยในการปรับบรรยากาศภายในบ้านของคุณให้กลับมาเย็นสบาย คลายร้อนได้มากยิ่งขึ้นค่ะ
ก่อนอื่น ว่ากันด้วยเรื่องของ “โทนสี” แน่นอนว่าสีของผ้าม่านถือเป็นปัจจัยสำคัญในการปรับความรู้สึกและบรรยากาศของคนในบ้านให้ร้อนหรือเย็นได้ ตามทฤษฏีของสีโทนร้อนโทนเย็น
“โทนสี” ของผ้าม่านที่ควรใช้เพื่อทำให้ผ่อนคลายในสภาวะอากาศร้อน
การเลือกผ้าม่าน “สีโทนเย็น” หรือ “สีสว่าง” จะช่วยปรับบรรยากาศภายในบ้านของคุณให้เย็นสบาย โดยสีโทนเย็นจะประกอบไปด้วยสีเขียวเหลือง สีเขียว สีเขียวน้ำเงิน สีน้ำเงิน และสีม่วงน้ำเงิน หรือสีที่มีสีโทนน้ำเงิน และเขียวเป็นส่วนประกอบ เพราะโทนสีที่เย็นจะช่วยให้ความรู้สึก สงบ เยือกเย็น
โทนสีต้องห้ามในช่วงหน้าร้อน
สีต้องห้ามสำหรับอากาศร้อน ที่ไม่ควรนำมาเป็นส่วนประกอบหรือตกแต่งบ้าน เพราะอาจจะทำให้คนในบ้านเกิดอาการร้อนรุ่มมากกว่าเดิม เช่น สีส้มเหลือง สีส้ม สีส้มแดง สีแดง สีม่วงแดง หรือสีที่มีโทนแดง ส้ม เป็นส่วนประกอบ
เพราะสีที่มีวรรณะร้อนจะให้ความรู้สึกตื่นตา มีพลังงานร้อนอบอุ่น สนุกสนาน มากกว่าสีโทนเย็น จึงไม่เหมาะนำมาเป็นสีตกแต่งพื้นที่ที่ต้องการความเย็น สงบ
นอกจาก “สี” ของผ้าม่านแล้ว “ประเภทของผ้าม่าน” ก็มีส่วนสำคัญในการช่วยคลายความร้อนได้นะ
มาดูกันว่า ผ้าม่านของ ZOFT The Fabric Gallery ประเภทไหนที่เหมาะกับช่วงหน้าร้อนกันบ้าง
ผ้าม่านกันแสง Blackout Curtain
ผ้าม่านกันแสง Blackout Curtain มี 4 แบบ
1.1 ผ้าม่านกันแสงซิลิโคน (Blackout Silicone) มีคุณสมบัติ
● ป้องกันแสงแดดได้ 100%
● ป้องกันรังสี UV 99%
● ป้องกันไฟลามระดับ British Standard
● ป้องกันรังสีแสงอาทิตย์ Infrared-IR
● สามารถลดอุณหภูมิความ้อนในห้อง 5-7 องศาเซลเซียส
● จุดเด่นของผ้าม่าน Blackout Silicone คือ ด้านหน้าและด้านหลังเป็นสีเดียวกัน
● รับประกัน 3 ปี
1.2 ผ้าม่านกันแสงแบบเคลือบโฟมกันแสง 3 ชั้น (Blackout Reflex 3) มีคุณสมบัติ
● ป้องกันแสงแดดได้ 100%
● ป้องกันรังสี UV 99%
● ป้องกันรังสีแสงอาทิตย์ Infrared-IR
● สามารถลดอุณหภูมิความร้อนในห้อง 5-7 องศาเซลเซียส
● รับประกัน 3 ปี
1.3 ผ้าม่านกันแสงแบบเคลือบโฟมกันแสง 2 ชั้น (Blackout Reflex 2) มีคุณสมบัติ
● ป้องกันแสงแดดได้ 90-95%
● ป้องกันรังสี UV 99%
● ป้องกันการสะท้อนจากรังสีแสงอาทิตย์ อินฟาเรด (Infrared-IR)
● รับประกัน 3 ปี
1.4 ผ้าม่านกันแสงแบบเคลือบโฟมกันแสง 1 ชั้น (Blackout Reflex 1) มีคุณสมบัติ
● ป้องกันแสงแดดได้ 60-70%
● ป้องกันรังสี UV 99%
● ป้องกันการสะท้อนจากรังสีแสงอาทิตย์ อินฟาเรด (Infrared-IR) 70%
● รับประกัน 3 ปี
ผ้าม่านกันแสงดิมเอ้าท์ (Dimout Curtain )
ผ้าม่านกันแสง Dimout Curtain เป็นผ้าม่านกันแสงแดดที่ผ่านกรรมวิธีการทอแบบพิเศษ โดยการสอดเส้นด้ายสีดำ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดได้ถึง 60-70% มีคุณสมบัติช่วยป้องกันแสง UV ได้ถึง 99%
ผ้าม่านกันแสงประเภท Dimout จึงเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบความสวยงาม เนื้อผ้าสัมผัสนุ่มนวล มีน้ำหนัก มีสีที่หลากหลาย จะแขวนใส่ห้องไหน ๆ ก็ทำให้ห้องเย็นสบาย และรับประกัน 5 ปี
ผ้าม่านลายเรียบแบบและผ้าทอลาย (Plain & Jacquard Curtain)
ผ้าม่านลายเรียบและผ้าทอลาย Plain & Jacquard ที่สามารถเป็นได้ทั้งผ้าม่านและผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ ลวดลายหลากหลายเหมาะสำหรับทุกไลฟ์สไตล์
ม่านผ้าโปร่ง (Sheer Curtain)
ผ้าโปร่ง มีคุณสมบัติเด่นคือช่วยกรองแสงแดด และช่วยบดบังสายตาจากภายนอก
ด้วยลักษณะของผ้าที่พลิ้ว จึงช่วยทำให้บ้านของคุณดูเย็นสบาย บวกกับลักษณะลวดลายของเนื้อผ้าที่นุ่มนวลชวนหลงไหล ช่วยส่งเสริมให้บ้านดูผ่อนคลาย ไม่ทำให้คุณรู้สึกอึดอัด
นอกจากนี้ยังสามารถแขวนคู่กับม่านแบบทึบจะช่วยเพิ่มความหรูหราของบ้านขึ้นมาอีกหนึ่งระดับ และรับประกัน 3 ปี
สรุป
ถ้าคุณต้องการหาผ้าม่านที่ตอบโจทย์รับมือกับสภาวะอากาศร้อนของประเทศไทย ที่นับวันจะร้อนขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละปี คงต้องมองหาผ้าม่านตระกูลผ้ากันแสง (Blackout Curtain) และ ผ้าม่านดิมเอ้าท์ (Dimout Curtain)
เพื่อกันแสงแดด สะท้อนความร้อนจากรังสีต่าง ๆ ที่เป็นอันตราย พร้อมทั้งช่วยลดอุณหภูมิห้องให้เย็นขึ้น
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังลังเลในการเลือกซื้อผ้าม่านให้เหมาะกับสภาวะอากาศร้อนของประเทศเรานะคะ บ้านของคุณเย็นได้ด้วยผ้าม่านค่ะ
ใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาด หมดกังวลกับปัญหาต่าง ๆ ให้ผ้าม่านจากแบรนด์ ZOFT The Fabric Gallery ช่วยคุณดูแลเรื่องผ้าม่านนะคะ
Leave a comment