เราเชื่อว่าหลายคนที่อยู่ในขั้นตอนการตกแต่งบ้าน หรือกำลังวางแผนรีโนเวทบ้านอยู่ ต้องมีการจินตนาการบ้างแหละว่า จะตกแต่งบ้านยังไงดี Build-in หรือเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว และอื่น ๆ อีกจิปาถะรวมถึงผ้าม่าน ของตกแต่งบ้านชิ้นสำคัญที่ช่วยให้คุณได้บ้านในฝันได้
คุณอาจจะวางแผนอยู่แล้วผ้าม่านโทนสีไหน ลายอะไรที่เข้ากับห้องแต่ละห้องของคุณ คุณอาจจะทราบว่าใช้ผ้าม่านประเภทไหนที่เหมาะกับห้องแต่ละแบบ
แต่คุณจะเลือกซื้อผ้าม่านที่ร้านไหนดีล่ะ
ยิ่งปัจจุบันร้านผ้าม่านก็มีให้เลือกมากมาย ตั้งแต่ร้านผ้าม่านตามตลาดนัด ผ้าม่านที่ขายตามห้างสรรพสินค้า และร้านผ้าม่านที่ตั้งอยู่ข้างนอก ที่มีผ้าม่านและบริการแตกต่างกันออกไป
บทความนี้ UTEX Living Square จะมาแชร์ให้คุณทราบถึงสิ่งที่ควรพิจารณาก่อนเลือกร้านผ้าม่าน เพื่อไม่ให้เกิดอาการเหนื่อยใจเพราะเลือกร้านผิด กับ 9 ข้อคิดตอนเลือกร้านผ้าม่านค่ะ
1. เช็คหน้าร้าน ว่ามีความน่าเชื่อถือหรือไม่
จะเลือกซื้อผ้าม่านคุณภาพทั้งที จะให้มีหน้าร้านในออนไลน์อย่างเดียวก็คงน่ากลัวไปหน่อย เพราะผ้าม่านคือสิ่งที่คุณต้องสัมผัส
ดังนั้น หากคุณเจอร้านผ้าม่านที่ถูกใจบนโลกออนไลน์ ก็ขอให้เช็คกันนิดนึงค่ะว่า ร้านนี้มีหน้าร้านจริงไหม หน้าร้านตั้งอยู่ที่ไหน มีลูกค้าใช้บริการจริงไหม เพื่อตรวจสอบว่าร้านที่เราเลือกมีความน่าเชื่อถือ มีหน้าร้านซื้อขายได้จริง และควรแวะไปที่หน้าร้านเพื่อความความมั่นใจก่อนตัดสินใจซื้อ
2. เช็คประสบการณ์ และผลงานที่ผ่านมา
นอกจากภาพถ่ายที่มีให้ชม ไม่ว่าจะเป็น Photo Book หรือผลงานตามหน้าเพจ Facebook แล้ว ก็อย่าพึ่งด่วนตัดสินใจไปค่ะ แต่ควรเช็คให้ละเอียดว่าภาพนั้นคือของร้านจริง ไม่ใช่ภาพของคนอื่น
ผลงานที่ผ่านมา ทางร้านได้ติดตั้งผ้าม่านให้กับที่อยู่อาศัยรูปแบบไหนบ้าง เช่น คอนโด ทาวน์โฮม บ้าน โรงแรม โรงงาน ออฟฟิศ เพื่อให้มั่นใจได้ว่ามีประสบการณ์ในเรื่องของผ้าม่านจริง ๆ
3. มีรีวิวจากลูกค้าที่ใช้บริการจริง
คุณเคยซื้อของแบบไม่อ่านรีวิวมั้ยคะ ? รีวิวจากลูกค้าที่ผ่านมาบอกอะไรคุณได้หลายอย่าง ทั้งระดับความพอใจในคุณภาพของผ้าม่าน ตอนติดตั้งหน้างาน และบริการหลังการขาย
แต่ก็ควรพิจารณารีวิวร่วมกับปัจจัยอื่น ๆ ด้วย เพราะการรีวิวเกิดจากความพึงพอใจของแต่ละบุคคล และบางทีก็อาจเกิดจากรีวิวเพื่อหวังผลประโยชน์ เช่น รีวิวแลกรับส่วนลด แถมในปัจจุบันมีบริการรับจ้างรีวิวเพื่อสร้างความน่าเชื่อถืออีกต่างหาก
4. มีที่ปรึกษาคอยให้คำแนะนำด้านการตกแต่ง
การมีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา แนะนำ ช่วยเหลือในเรื่องของการเลือกผ้าม่าน จะทำให้คุณได้ผ้าม่านตกแต่งที่เหมาะกับห้อง โทนสี และสไตล์ของห้อง รวมถึงคุณสมบัติของผ้าม่านที่คุณต้องการ ว่าต้องกันแดด กันแสงมากน้อยแค่ไหน
หากร้านผ้าม่านที่คุณกำลังเลือก มีผู้เชี่ยวชาญแนะนำหรือให้คำปรึกษาด้านการตกแต่ง ก็จะช่วยให้คุณมั่นใจในการเลือกซื้อผ้าม่านได้มากขึ้นนั่นเองค่ะ ยกเว้นในกรณีว่าคุณมีสเปคจากมันฑนากรมาแล้วค่ะ
5. ใส่ใจในคุณภาพของสินค้าให้กับคุณ
ความใส่ใจของร้านในการเลือกเนื้อผ้าที่มีคุณภาพให้กับคุณ ถือเป็นคุณสมบัติของร้านผ้าม่านที่ดีค่ะ
แต่คุณจะทราบได้อย่างไรว่าผ้าม่านที่เค้าเลือกให้หรือคุณเลือกเอง มีคุณภาพที่ดีมากน้อยแค่ไหน
ทิปส์เล็ก ๆ น้อย ๆ จากเราก็คือ ผ้าม่านที่มีคุณภาพสูง จะมีการทอด้วยความละเมียด หนาแน่น มีการเคลือบแบบพิเศษที่สามารถกันแสง กันแดดได้สนิทมากกว่า
คุณควรทำการบ้านเพิ่มเติมด้วยการศึกษาเรื่องผ้าม่านว่ามีกี่ประเภท แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร เพื่อไม่ให้ถูกหลอกขายผ้าม่านราคาถูกในราคาแพงได้ค่ะ
6. มีบริการติดตั้งให้หรือเปล่า
ก็ต้องมีสิ ซื้อผ้าม่านแต่ไม่มีบริการติดตั้ง ไม่มีช่างเย็บ ไม่แปลกไปหน่อยหรอ ?
ไม่แปลกนะคะ เพราะขึ้นอยู่กับว่าคุณ
– ซื้อผ้าม่านแบบไหน แบบสำเร็จรูปหรือแบบ Custom
– ซื้อผ้าม่านที่ไหน ร้านตามห้างสรรพสินค้า หรือร้านตั้งอยู่ข้างนอก
แต่ไม่ว่าคุณจะซื้อผ้าม่านแบบไหน ถ้าคุณอยากจะลองติดตั้งเอง ก็น่าสนุกไปอีกแบบ แต่แค่ต้องรู้วิธีการวัดขนาดของผ้าม่าน คำนวนการติดตั้ง กะระยะขอบผ้าม่านให้แม่นยำ
เพื่อไม่ให้ผ้าม่านที่ติดออกมาแล้วมีขนาดที่ไม่พอดี สูงเกินไป ต่ำเกินไป ชิดกับขอบหน้าต่างมากเกินไป ก็อาจจะทำให้ไม่สวยงามตามแบบที่ต้องการได้
แต่ถ้าคุณไม่อยากจะเสียเวลาที่จะติดตั้งเอง เราขอแนะนำให้หาร้านผ้าม่านที่มีบริการการติดตั้งด้วย สิ่งที่คุณควรทราบคือ บริการการติดตั้งนั้นเป็นของทางร้านเอง หรือร้านนั้นไปจ้างร้านอื่นเพื่อติดตั้งให้อีกที
เพราะถ้าหากเป็นแบบนั้น อาจเกิดปัญหาที่ว่า “งานไม่ตรงปก” คุณภาพของการติดตั้งไม่ได้มาตรฐาน อาจเกิดความเสียหายในภายหลังได้ค่ะ
เพราะร้านผ้าม่านที่มีบริการติดตั้งเอง จะมีทีมงานที่ผ่านการฝึกอบรมและผ่านมาตรฐานการติดตั้งผ้าม่านมาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางร้านจะการันตีในคุณภาพ และมาตรฐานการติดตั้งที่คงที่ค่ะ
7. บริการวัดพื้นที่และประเมินราคาหน้างานก่อนตัดสินใจ
ขั้นตอนการวัดพื้นที่ก่อนสั่งซื้อว่าจ้าง ถือเป็นส่วนที่สำคัญมากค่ะ
เพราะถ้ากะระยะความกว้าง-ความสูงผิด ก็ทำให้การคำนวนระยะผ้าม่านผิดไปด้วย ส่งผลให้ผ้าม่านที่ตัดเย็บเสร็จแล้ว พอไปติดตั้งจริง ๆ ไม่ออกมาสวยงามตรงใจคุณ
ดังนั้นหากทางร้านผ้าม่านมีบริการวัดพื้นที่และประเมินราคา ย่อมแม่นยำมากว่าการวัดด้วยตัวเองแน่นอนค่ะ
เพียงแค่คุณบอกความต้องการว่าอยากให้ผ้าม่านกว้างจากขอบหน้าต่าง-ประตูขนาดไหน สูงจากพื้นพอดี ๆ หรือกองกับพื้นไปเลย และเหลือเนื้อผ้าพอให้ทำจีบสวย ๆ แค่ไหน เป็นต้น
เงื่อนไขการบริการวัดพื้นที่และประเมินราคา แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละร้านผ้าม่าน มีทั้งแบบเสียค่าใช้จ่ายและไม่เสียค่าจ่าย เช่น จ่ายทุกกรณี ฟรีในพื้นที่จำกัด หรือฟรีแม้ไม่ติดตั้ง เป็นต้น
8. การรับประกันสินค้า/บริการหลังการขาย
โดยทั่วไปรูปแบบของการประกันจะมี 2 รูปแบบ คือ
- ประกันเฉพาะตัวผ้าม่าน หรือรางม่าน เมื่อซื้อเฉพาะผ้าม่านหรือรางม่านเท่านั้น
- ในกรณีที่คุณเลือกบริการซื้อผ้าม่านพร้อมติดตั้ง คุณอาจจะได้รับการประกันทั้งตัวผ้าม่าน รางม่าน พร้อมการติดตั้งค่ะ
ควรเช็คให้ดีค่ะว่า มีระยะเวลาการประกันสินค้า หรือบริการหลังกายขายกี่ปี เพื่อให้คุณสามารถรับการบริการได้อย่างต่อเนื่องหลังการติดตั้ง เช่น มีบริการซ่อมรางม่านฟรีตลอดอายุประกัน หรือมีบริการซัก-อบผ้าม่านฟรีตลอดอายุประกัน หรือตลอดการใช้งาน บริการซัก-อบผ้าม่าน ในราคาพิเศษตลอดอายุการใช้งาน เป็นต้น
9. ทางร้านมีช่างเย็บและติดตั้งเปนของทางร้านเองรึเปล่า
แน่นอนว่า ร้านผ้าม่านหลายแห่งไม่ได้มีช่างเป็นของทางร้านเอง แต่ก็สามารถติดตั้งผ้าม่านให้คุณได้ โดยการจ้างช่างมาเย็บและช่างติดตั้งเป็นงาน ๆ ไป
แต่ร้านผ้าม่านที่มีช่างเย็บเป็นของทางร้านเอง จะมีความคล่องตัวในการให้บริการได้ดีกว่าค่ะ
สรุป
จุดประสงค์ของการติดผ้าม่านของแต่ละคนไม่เหมือนกัน จะถูกจะแพงก็ขึ้นอยุ่กับเจ้าของบ้านอย่างคุณ
ดังนั้นควรพิจารณาจากความต้องการและความพึงพอใจของคุณเองเป็นหลัก โดยคุณสามารถนำ 9 ข้อคิดนี้ไปประยุกต์ใช้ เพื่อให้คุณเลือกร้านผ้าม่านได้ถูกใจในแบบที่คุณต้องการมากที่สุด
UTEX Living Square เชื่อว่าบทความนี้ช่วยให้คุณเข้าใจแนวทางการเลือกร้านผ้าม่านได้มากขึ้นไม่มากก็น้อย เพื่อไม่ให้เกิดอาการเหนื่อยใจกับการเลือกร้านผิดค่ะ
Leave a comment