คุณกำลังคิดที่จะซื้อม่าน ติดตั้งม่าน หรือเปลี่ยนม่านใหม่อยู่หรือเปล่าคะ? หรือบางทีคุณอาจต้องการเปลี่ยนสไตล์การแต่งบ้านเล็กน้อยด้วยม่าน?
การซื้อและติดตั้งม่านอาจจะเป็นเรื่องยากถ้าคุณเจอเป็นครั้งแรก แต่เรื่อง ”ผ้าม่าน” ใช่ว่าจะเลือกอะไรก็ได้นะคะ เพราะถ้าคุณอยากให้บ้านสวยด้วยม่าน เทคนิคและข้อสำคัญที่คุณต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อเป็นเรื่องสำคัญมากค่ะ
และนี่คือ 6 ข้อสำคัญ ที่ UTEX Living Square แนะนำให้คุณควรรู้ก่อนการซื้อและติดตั้งผ้าม่าน เพื่อให้บ้านของคุณสวยด้วยม่านได้ค่ะ
1. สไตล์การตกแต่งภายใน วัตถุประสงค์ และประเภทของม่าน
ผ้าม่านมีความสำคัญอย่างยิ่งในการตกแต่งภายใน การเลือกผ้าม่านที่ดี จะช่วยเติมเต็มส่วนที่เหลือของการตกแต่งห้องของคุณได้ ซึ่งมีองค์ประกอบหลัก ๆ อยู่ 4 อย่าง
- พื้น
- เพดาน
- ผนัง
- เฟอร์นิเจอร์
แล้ววัตถุประสงค์ของการติดตั้งผ้าม่านของคุณล่ะ คืออะไร?
ผ้าม่านสามารถตอบสนองความต้องการได้หลากหลายตั้งแต่ช่วยสร้างความเป็นส่วนตัว เติมเต็มจินตนาการห้องในฝันของคุณ ไปจนถึงการช่วยลดแสงแดดและความร้อนเข้าบ้าน
ดังนั้นก่อนที่คุณจะซื้อผ้าม่านในห้องนั่งเล่นหรือผ้าม่านในห้องนอน ลองจินตนาการดูว่าคุณต้องการให้พื้นที่นั้นมีความรู้สึกแบบไหน ดูทันสมัยหรือคลาสสิค และจะมีใครใช้เวลาในห้องนั้นบ้าง
หลังจากที่คุณมีไอเดียเบื้องต้นแล้ว คุณก็จะสามารถเลือกประเภทของผ้าม่านได้ง่ายขึ้น ซึ่งทางเลือกของคุณมีดังต่อไปนี้

“ม่านจีบ” ได้รับความนิยมมากตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพราะใช้งานสะดวก เป็นม่านที่เหมาะกับการตกแต่งบ้านทุกสไตล์ มีเนื้อผ้า สี และลวดลายให้คุณได้เลือกหลากหลาย
ลักษณะของม่านจีบคือ มีการจับจีบด้านบน เว้นระยะเท่ากัน ต่างจากม่านคอกระเช้าและม่านตาไก่ที่จะต้องคอยเซทผ้าให้ช่องเท่า ๆ กัน แถมติดได้ 2 ชั้น คือม่านโปร่งและม่านทึบ

“ม่านพับ” ม่านอีกชนิดที่ป๊อปปูล่ามาก เพราะความเป็นระเบียบเรียบร้อย การพับของม่านพับนั้นมีลักษณะเป็นชั้น ๆ พับซ้อนทับกันเมื่อดึงม่านเปิดขึ้น
ม่านพับมักใช้เมื่อต้องการเน้นแนวตั้งของประตูหรือหน้าต่าง หรือใช้กับหน้าต่างบานเล็กและติดกันหลายบาน ทำให้ไม่ต้องเปิดม่านทั้งหมด ประหยัดพื้นที่ และทำความสะอาดง่ายค่ะ

“ม่านล็อคลอน” มีลักษณะคล้ายตัว S ต่อกันไปเรื่อย ๆ ได้รับความนิยมมากอีกเช่นกัน เป็นทางเลือกถ้าคุณชอบการตกแต่งบ้านสไตล์โมเดิร์น เพราะม่านล็อคลอนให้ความรู้สึกเรียบง่าย หรูหรา แต่ดูทันสมัย

“ม่านตาไก่” เป็นม่านที่ลอนใหญ่และคุณสามารถเลือกหัวรางและรางม่านได้ตามรูปแบบที่คุณต้องการ ติตตั้งสะดวกด้วยอุปกรณ์ม่านตาไก่แบบห่วงที่ยึดประกบตัวผ้า ดูเป็นลอนสวยงาม น้ำหนักเบา ใช้ได้ทั้งผ้าม่านทึบและโปร่ง

“ม่านคอกระเช้า” เหมาะกับการตกแต่งบ้านสไตล์ร่วมสมัย ด้วยเอกลักษณ์ที่นำม่านมาทำเป็นห่วงด้วยตัวผ้าเอง เพิ่มลูกเล่นด้วยการเย็บติดกระดุมหรือผูกโบว์ให้ผ้าม่าน ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบงานฝีมือ ไม่เนี้ยบเกินไป เรียบง่าย และเป็นธรรมชาติ

“ม่านหลุยส์” หรูหรา ประณีต คือความรู้สึกที่คุณได้จากม่านประเภทนี้ สามารถเลือกเนื้อผ้า สี และลวดลายได้หลากหลาย ข้อเสียของม่านหลุยส์คือคือการดูแลรักษายาก และอมฝุ่น

“ม่านม้วน” เป็นม่านที่เหมาะกับคนที่ชอบตกแต่งบ้านสไตล์เรียบง่าย ทันสมัย ใช้ได้ทั้งในบ้าน สำนักงาน ร้านค้าเน้นความเรียบง่าย ใช้งานง่าย สะดวก ปรับความสูงได้อย่างที่คุณต้องการ ใช้พื้นที่ในการติดตั้งไม่มาก ใช้ได้กับหน้าต่างหรือประตูบานเล็กถึงบานใหญ่ และทำความสะอาดง่าย ไม่เก็บฝุ่น
2. สีและเนื้อผ้า
เมื่อคุณทำการวัดเสร็จแล้วคุณสามารถไปช้อปปิ้ง และดูว่าธีมสีแบบไหนที่เหมาะกับห้องของคุณ โปรดทราบว่าผ้าม่านที่แตกต่างกัน วิธีการทำความสะอาดของพวกเขาก็แตกต่างกัน
ถ้าไม่อยากให้ม่านดูกินพื้นที่ เลือกสีม่านให้แมตช์กับผนัง เพื่อให้ไม่เกิด Contrast
แนะนำให้ใช้สีที่เป็นกลาง เช่น สีเทา เพราะผสมผสานเข้ากับการตกแต่งของห้องได้ทุกรูปแบบ
ประเภทของเนื้อผ้าเป็นส่วนสำคัญในการเลือกผ้าม่าน เนื่องจากเนื้อผ้าจะเป็นตัวกำหนดว่าผ้าม่านของคุณทำงานได้ดีแค่ไหนและคงทนได้นานเท่าไหร่ โดยจะใช้ผ้าประเภทไหน ขึ้นอยู่กับการใช้งานในแต่ละห้อง เช่น
ห้องนอนหรือห้องที่หันหน้าเข้าทางทิศตะวันตก (แดดจะแรงช่วงบ่าย) “ผ้าม่าน Blackout” เป็นม่านที่เหมาะสมที่สุด เพราะสามารถกันรังสึ UV และรังสี IR ทำให้สะท้อนความร้อนและช่วยลดอุณหภูมิห้อง ช่วยกันแสงแดดไม่ให้เข้ามาได้ 100%
ห้องนั่งเล่น ถ้าต้องการกันแสงได้ แต่ไม่ทึบแสง แนะนำเป็น “ผ้า DIMOUT”
หรือถ้าคุณต้องการควบคุมแสงที่ผ่านเข้าห้อง จะติดตั้ง “ม่านโปร่ง (Sheer)” หรือลองใช้ “ม่านม้วนแบบ Sunscreen” หรือ “ม่านม้วนแบบ Transparent” ที่ให้แสงส่องผ่านได้เพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้นก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งได้ค่ะ
3. ความสูง ความยาว
ต้องวัดขนาด ความกว้าง X ความสูง ของหน้าต่าง + ประตูให้ดี และเผื่อซ้ายขวาสักเล็กน้อย
4. ผ้าม่านสำเร็จรูปหรือผ้าม่านสั่งตัด
“ผ้าม่านสำเร็จรูป” มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีก็คือราคาถูกกว่าผ้าม่านแบบสั่งตัด และปัจจุบันมีดีไซน์ และเนื้อผ้าให้คุณเลือกหลากหลายมากขึ้น แต่ก็มีข้อจำกัดคือเรื่องขนาดที่ปรับแต่งไม่ได้
แต่ถ้าคุณเลือก “ผ้าม่านแบบสั่งตัด” ได้ตามขนาดหน้าต่างหรือประตูนั้น ก็มีข้อดีมากมาย เช่น คุณสามารถปรับขนาดตามขนาดหน้าต่างหรือประตูของคุณได้ตามความต้องการ
ดีไซน์และเนื้อผ้าก็หลากหลาย มีตัวเลือกในการออกแบบที่ไม่มีที่สิ้นสุดตั้งแต่วัสดุจนถึงส่วนหัวของม่าน (ส่วนบนของม่าน) ส่วนเรื่องราคาก็อาจจะสูงกว่าแบบสำเร็จรูป
UTEX Living Square ก็มีสินค้าผ้าม่านสำเร็จรูปไว้รองรับลูกค้าที่ชอบความสะดวกและงบประมาณไม่เยอะ แต่ยังอยากได้ผ้าม่านคุณภาพดี ๆ อย่างแบรนด์ ido curtain
วิดีโอข้างล่างนี้คือ 6 ขั้นตอนง่าย ๆ ในการติดตั้งราวและม่านสำเร็จรูปตาไก่ หากคุณซื้อผ้าม่านสำเร็จรูป ido curtain ค่ะ
5. วิธีการดูแลทำความสะอาดผ้าม่าน
การทำความสะอาดผ้าม่านก็สำคัญไม่แพ้กัน ลองพิจารณาว่าคุณกำลังจะซื้อผ้าม่านที่ต้องการวิธีการทำความสะอาดแบบไอน้ำ แบบซักเครื่อง แบบซักมือ หรือแบบซักแห้งเท่านั้น ก็จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาและเงินได้ในระยะยาวค่ะ
บทความแนะนำ
6. รางม่าน
ถ้าเปรียบให้ผ้าม่านเป็นบ้านสวย ๆ หนึ่งหลัง รางม่านก็คือโครงสร้างทั้งหมดของบ้านหลังนั้น ถ้าโครงสร้างไม่ดี ไม่มั่นคง แล้วบ้านเราจะสวยได้อย่างไร
การเลือกรางม่านให้เหมาะสมกับผ้าม่านที่คุณเลือก เป็นเรื่องที่สำคัญ
ควรตรวจสอบว่าผ้าม่านที่คุณซื้อมีน้ำหนักมาก จนต้องใช้ราวที่แข็งแรงพิเศษหรือไม่ ถ้าไม่เช่นนั้นจะเกิดอาการที่เรียกว่า “ตกท้องช้าง” ได้
รางม่านที่คุณต้องการ ต้องเงียบ ลื่น รูดม่านแล้วไม่สะดุดหรือเปล่า
ดัดโค้งได้ตามการออกแบบหน้าต่างหรือประตูหรือเปล่า
ระบบเปิด – ปิดล่ะ ? แบบ Manual หรือ Motorized ?
ควบคุมผ่านสวิตช์หรือรีโมทดี ?
UTEX Living Square ขอแนะนำ Douglas รางผ้าม่านคุณภาพสูงจากสหรัฐอเมริกา ที่มีการออกแบบ Section ของรางที่แตกต่างจากรางม่านทั่วไป ด้วยความหนาของอลูมิเนียม ประกอบกับเทคโนโลยีราง 2 ชั้น จึงช่วยให้การเปิด-ปิดของผ้าม่านเงียบและลื่นมาก
สรุป
UTEX Living Square มีความเชื่อว่า ผ้าม่านเปรียบได้กับ “เฟอร์นิเจอร์” ชิ้นใหญ่ชิ้นหนึ่ง
การเลือกซื้อ ”ผ้าม่าน” พร้อมการติดตั้งผ้าม่านอย่างถูกวิธี จะช่วยให้บ้านของคุณสวยงาม ไปพร้อม ๆ ตอบโจทย์ตามการใช้งานของคุณ
ลองนำคำแนะนำที่เรากล่าวมาไปปรับใช้กันดูนะคะ
บ้านของคุณ สวยด้วยม่านได้ค่ะ
Leave a comment