ผ้าม่านเป็นส่วนสำคัญในบ้านของเรา ทั้งให้ความเป็นส่วนตัว ความอบอุ่น และปกป้องเราจากแสงแดดที่รุนแรง
แน่นอนว่าประเภทของวัสดุที่นำมาทำผ้าม่านมีหลายแบบ การทำความสะอาดเป็นประจำจึงมีความสำคัญสูงสุดเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดจากสิ่งสกปรกและฝุ่นละออง
เนื้อหาในบทความนี้ จะแนะนำคุณถึงวิธีการทำความสะอาดผ้าม่านอย่างไร ให้เหมาะกับผ้าม่านแต่ละประเภท
การทำความสะอาดผ้าม่านด้วยไอน้ำ
เป็นวิธีที่ดีวิธีหนึ่งในการทำความสะอาดผ้าม่านเนื้อหนาและมีน้ำหนักมาก เช่น ผ้าม่านในโถงห้องรับแขก ในห้องนั่งเล่นหรือในห้องนอน ซึ่งยากต่อการถอดผ้าม่านออกจากราง อีกทั้งความสูงของม่านในห้องดังกล่าวอาจสูงมาก ถอดออกลำบาก จึงแนะนำให้ใช้เตารีดไอน้ำพ่น
วิธีนี้มีข้อดีคือ “เป็นวิธีที่ค่อนข้างรวดเร็ว” เพราะการทำความสะอาดผ้าม่านด้วยไอน้ำช่วยย่นระยะเวลาในการแห้งให้เร็วขึ้นเมื่อเทียบกับการทำความสะอาดผ้าม่านด้วยเครื่องซักผ้าหรือซักมือ ทั้งยังช่วยลดขั้นตอนการถอดม่าน ขนย้ายม่าน ในกรณีที่ผ้าม่านผืนใหญ่และยาวมาก
แนะนำให้พ่นไอน้ำเป็นแนวเส้นตรง ขึ้นบนลงล่าง และควรต่อหัวแปรงนุ่ม ๆ ที่ปลายสายของเครื่องพ่นไอน้ำ ปรับระดับของไอน้ำให้เหมาะสม ถ้าผ้าม่านเริ่มชื้นมากเกินไป ควรถอยหัวพ่นไอน้ำออกห่างจากผ้าม่าน
เหมาะสำหรับผ้าม่านทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น
ผ้ากันแสงซิลิโคน (Silicone)
ผ้ากันแสงแบล็กเอาท์ (Blackout)
ผ้ากันแสงดิมเอาท์ (Dimout)
ผ้าโปร่ง
ผ้าม่านทอลายทั่วไป
และผ้าไหม
แต่วิธีการทำความสะอาดผ้าม่านด้วยไอน้ำมีข้อจำกัดคือ “ต้องมีเตารีดไอน้ำที่กำลังวัตต์สามารถรีดผ้าม่านได้” และการทำความสะอาดด้วยไอน้ำเหมาะกับผ้าม่านที่ไม่ได้สกปรกมาก ที่พึ่งติดตั้งได้ 1-2 ปี ฝุ่นไม่เยอะมาก เนื่องจากถ้าผ้าม่านนั้นติดตั้งมานานมาก อยู่ในพื้นที่ที่ฝุ่นเยอะแนะนำให้ทำความสะอาดด้วยวิธีซักเครื่อง หรือซักมือ
การทำความสะอาดผ้าม่านด้วยเครื่องซักผ้า
ผ้าม่านที่มีขนาดและน้ำหนักไม่มากจนเกินไป หรือผ้าม่านที่มีเนื้อบางเบา เช่น ผ้าที่ใช้ในผ้าม่านสำเร็จรูป สามารถทำความสะอาดในเครื่องซักผ้าได้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คุณควรคำนึงถึงเป็นพิเศษคือ ผ้าม่านบางประเภทมีคุณสมบัติหดตัวได้เมื่อสัมผัสกับน้ำร้อน
“ม่านตาไก่” ที่มีวัสดุอื่น ๆ เช่น ห่วงตาไก่ ไม่ควรให้โดนน้ำเพราะอาจเกิดสนิมได้ (ม่านประเภทนี้เหมาะกับการทำความสะอาดด้วยมือมากกว่า (แนะนำคลิปการทำความสะอาดผ้าม่านสำเร็จรูป ido curtain)
“ม่านจีบ” หรือ “ม่านล็อคลอน” ต้องถอดตะขอด้านหลังออกก่อน ถึงเอาลงเครื่องปั่นได้
ควรตั้งค่าโหมดเครื่องซักผ้าให้เป็นแบบที่ถนอมเนื้อผ้ามากที่สุด และใช้น้ำยาที่เป็นสูตรอ่อนโยน (หลีกเลี่ยงผงซักฟอกขาวเพราะจะทำให้เป็นคราบ) หลังจากปั่นเสร็จ ควรนำผ้าม่านไปผึ่งในที่ร่ม มีลมผ่าน และไม่โดนแดดโดยตรง
เหมาะสำหรับผ้าม่านประเภท ผ้ากันแสงซิลิโคน (Silicone) ผ้ากันแสงแบล็กเอาท์ (Blackout) ผ้ากันแสงดิมเอาท์ (Dimout) และผ้าม่านทั่วไปที่ทอด้วยความละเอียด
วิธีนี้มีข้อดีคือ “สามารถทำเองได้เลย” ถ้าเป็นผ้าม่านผืนไม่ใหญ่มาก สามารถถอดผ้าม่านออกจากรางม่าน และซักได้เองเลยที่บ้าน โดยต้องตั้งโปรแกรมการซักแบบถนอมผ้า และศึกษาวิธีการดูแลรักษาผ้าประเภทนั้นให้ดี
อย่าตั้งค่าโปรแกรมปั่นหมาดสูงเกินไป เวลาผึ่งผ้ากันแสงซิลิโคน (Silicone) หรือผ้ากันแสงแบล็กเอาท์ (Blackout) ควรหันด้านที่เคลือบออก กระจายผ้าม่านให้ดีโดยไม่ให้โฟมเคลือบทับกัน
ผ้ากันแสงซิลิโคน (Silicone) ผ้ากันแสงแบล็กเอาท์ (Blackout) จากแบรนด์ ZOFT The Fabric Gallery สามารถซักเครื่องได้โดยที่โฟมเคลือบด้านหลังไม่หลุด
การทำความสะอาดผ้าม่านด้วยการซักมือ
นี่อาจจะเป็นวิธีที่เหนื่อยมากที่สุด แต่ก็เป็นวิธีที่ทำลายเนื้อผ้าน้อยที่สุดด้วย เพราะคุณสามารถควบคุมแรงมือของคุณได้
วิธีนี้เหมาะสำหรับผ้าม่านที่มีความละเอียดอ่อน เช่น ผ้าฝ้าย Cotton 100% หรือผ้าโปร่ง ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นผ้าที่มีน้ำหนักไม่มากนัก หรือผ้าม่านตาไก่ที่ไม่สามารถถอดตาไก่ออกมาได้
ควรใช้น้ำเย็นเพื่อหลีกเลี่ยงการหดตัว ใช้น้ำยาทำความสะอาดแบบอ่อนโยนค่อย ๆ ซักทีละจุด ล้างด้วยน้ำสะอาด 3-4 ครั้งจนสะอาด
หลีกเลี่ยงการทำความสะอาดด้วยการซักมือสำหรับผ้าที่มีน้ำหนักมาก เพราะเป็นเรื่องยากที่จะบิดน้ำออก ระวังอย่าบิดผ้าหรือขยี้ผ้าแรง เพราะอาจทำให้เกิดรอยยับและใช้เวลาเพิ่มขึ้นในการทำให้ผ้าม่านแห้ง
เหมาะสำหรับผ้าม่านโปร่ง ผ้าม่านทอลายหรือที่เรียกว่า jacquard ผ้าม่านที่มีส่วนผสมของ cotton ผ้าฝ้าย หรือผ้าลินิน
ข้อดีคือ เนื้อผ้าปลอดภัยจากการถูกทำลายด้วยการซักมากที่สุด และสามารถซักผ้าม่านตาไก่ โดยเว้นจุดที่เป็นตาไก่ได้โดยไม่ทำให้เป็นสนิม
ข้อเสียคือ ถ้าผ้าม่านผืนใหญ่เกินไปจะซักลำบาก และเป็นวิธีที่เสียเวลามากที่สุด
การทำความสะอาดผ้าม่านด้วยการซักแห้ง
ผ้าม่านบางประเภทต้องใช้วิธีการทำความสะอาดแบบซักแห้ง (Dry Clean Only) เท่านั้น
ห้ามนำไปซักด้วยน้ำเองเด็ดขาด เพราะนอกจากจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อเนื้อผ้าแล้ว ยังจะทำให้ผ้าม่านนั้นหมดระยะประกัน (กรณีมีการรับประกันสินค้า) ควรส่งให้ร้านที่มีบริการซักแห้งผ้าม่านโดยเฉพาะ หรือส่งให้ร้านผ้าม่านที่คุณซื้อมาก็ได้ถ้าร้านนั้นมีบริการซักผ้าม่านให้
เหมาะสำหรับผ้าม่านที่เป็นผ้าไหม
ข้อดีคือ สามารถถนอมเนื้อผ้าม่านให้อยู่ในสภาพดีได้นานที่สุด
ข้อเสียคือ ค่าใช้จ่ายในการซักแห้งค่อนข้างสูง และต้องเลือกร้านที่มีการรับประกันหลังการซักแห้งให้ และไม่สามารถทำเองที่บ้านได้
หากมีข้อสงสัยในการทำความสะอาดผ้าม่านของ ZOFT คุณสามารถติดต่อ Customer Service เพื่อขอรับคำแนะนำหรือข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-108-5621 กด 1 หรือสายด่วน 086-340-3061
Leave a comment